ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2017

Sub_Station

มารู้จักชนิดของสถานีไฟฟ้าแ รงสูงกัน รูปแบบของสถานีไฟฟ้าแรงสูงส ามารถแบ่งออกตามชนิดของฉนวน ในการดับอาร์คของสวิตซ์ตัดต อน (Power Circuit Breaker )ของสถานีไฟฟ้านั้น ซึ่งมี 2 แบบ คือ 1) สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบใช้ฉนวน อากาศ (Air Insulated Substation : AIS) • ข้อดีของสถานีไฟฟ้าแบบ AIS คือ - ระบบสามารถออกแบบให้ยืดหยุ่ นกับการใช้งาน, อุปกรณ์ราคาถูก, อุปกรณ์แต่ละตัวแยกอิสระกัน  เช่น เซอร์กิตเบรคเกอร์, ใบมีดตัดตอน, หม้อแปลงวัดกระแส, หม้อแปลงวัดแรงดัน, กับดักฟ้าผ่า, บัสบาร์, สามารถจัดหามาทดแทนได้ง่าย • ข้อเสียของสถานีไฟฟ้าแบบ AIS คือ - ต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้า ง มากกว่าแบบ GIS มากถึง 5-6 เท่า อุปกรณ์, ต้องมีความระมัดระวังในการป ฎิบัติงานเพื่อระบบเป็นแบบเ ปิด อุปกรณ์แต่ละส่วน เชื่อมต่อกันด้วยสายไฟแรงสู ง และต้องเลิอกฉนวนให้เหมาะสม กับสภาพแวดล้อม 2) สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบใช้ฉนวน ก๊าซ (Gas Insulated Substation : GIS) • ข้อดีของสถานีไฟฟ้าแบบ GIS คือ - ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างน้อ ย, ติดตั้งได้รวดเร็วกว่า, มีความปลอดภัยในการใช้งานสู งกว่า, ไม่มีผลกระทบจากมลภาวะภายนอ ก, การบำรุงรักษาน้อยกว่า • ข้อเสียขอ

Switchgear

เรียนรู้เรื่องระบบไฟฟ้ากำลัง (3) Switchgear อุปกรณ์ตัดตอนไฟฟ้า (Switch gear)      ระบบการจ่ายไฟฟ้าดั้งเดิมเริ่มขึ้นจากการกระจุกตัวภายในเมือง การจ่ายไฟฟ้าเริ่มจากแรงดันไฟฟ้าต่ำ 110-220 Volt เมื่อมีการขยายตัวสูงขึ้นของการใช้ไฟฟ้า ระยะทางการจ่ายไฟฟ้าเริ่มไกลออกไป แรงดันไฟฟ้าที่จ่ายจึงต้องเพิ่มขึ้นเพื่อลดกระแสในสายไฟฟ้า เป็นการลดการสูญเสียพลังงานในสายไฟฟ้าและลดปัญหาเรื่องแรงดันไฟฟ้าตก แรงดันไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเข้าสู่ระบบแรงดันปานกลาง (Medium Voltage) 3000 ถึง 33000 Volts ไปจนถึงระดับแรงสูง (High Voltage) 69000 ถึง 230000 Volts และปัจจุบันเข้าสู่ระดับสูงพิเศษ (Extra High or Ultra High Voltage) ที่ระดับแรงดัน 500000 Volts      การจ่ายไฟฟ้าไปในระยะทางทั้งใกล้และไกล จึงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันหรือใช้ตัด-ต่อไฟฟ้า ดังนี้ อุปกรณ์ตัด-ต่อไฟฟ้าแรงต่ำ (Low Voltage Switchgear) ฟิวส์ (Fuse)      ฟิวส์ทำหน้าที่หลัก 2 ประการ คือ ป้องกันการใช้กระแสไฟฟ้าเกิน (Over Load) และป้องกันการลัดวงจรไฟฟ้า (Short circuit)      ฟิวส์ทำงานโดยอาศัยหลักการของการหลอมละลายของโลหะ ซึ่งตัวฟิวส์ เป็นแผ่นโลหะบาง

กระบอกสูบ Cylinder

การเลือกซื้อกระบอกสูบนิวเมติกที่ดีเพื่อนำมาใช้งานนิวเมติกของคุณ กระบอกสูบนิวเมติก หรืออีกชื่อหนึ่งว่า กระบอกลมนิวเมติก มีอยู่หลายชนิดด้วยกันและมีความหลากหลายในการใช้งานในระบบอัตโนมัติ เมื่อคุณต้องการเลือกประเภทของกระบอกสูบหรือ กระบอกลมนิวเมติก เพื่อเหมาะสมกับทำงานในโหลดที่เฉพาะเจาะจงคุณควรพิจารณาหลักเกณฑ์การออกแบบตลอดจปัจจัยสำคัญหลายๆอย่างที่มีผลต่อการทำงานนั้นของ กระบอกลม  หากคุณต้องการที่จะเลือกซื้อกระบอกลมสักชุดมาใช้ในลักษณะติดตั้งเป็นของใหม่หรือว่าทดแทนของเดิม ซึ่งในบทความนี้ก็จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆในการเลือกกระบอกที่มีประสิทธิภาพเพื่อนำมาให้กับงานของเรากันครับ กระบอกลมนิวเมติก แรงดันของอากาศภายในกระบอกลม คุณรู้หรือไม่ว่าอากาศที่จ่ายให้กับ กระบอกสูบนิวเมติกส์ นั้นมีความสำคัญต่อการทำงานที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดของกระบอกลมเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่อากาศถูกบีบอัดภายใน กระบอกลม เองต้องเพียงพอเพื่อดำเนินงานทางกลที่สร้างขึ้นโดยตัวถัง กระบอกลม เอง ดังนั้นเวลาคุณเลือกซื้อกระบอกลมคุณควรตรวจสอบการอัดอากาศของแต่ละรุ่นด้วยว่าเหมาะสมกับการใช้งานของคุณหรือไม่ ความต้องการ

Water Hammer

วอเตอร์แฮมเมอร์ วอเตอร์แฮมเมอร์ (water Hammer) วอเตอร์แฮมเมอร์ (water Hammer) เป็นปรากฏการณ์ที่ความดันในท่อมีการเปลี่ยนเเปลงอย่างรุนเเรงและฉับพล ัน โดยมีความดันเพิ่มขึ้นและลดลงจากความดันเดิมในลักษณะเป็นคลื่นขึ้นลงสลับกันไปเป็นอนุกรม สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวอเตอร์แฮมเมอร์ ก็คือมีการเปลี่ยนเเปลงความเร็วของการไหลในท่ออย่างกระทันหัน เช่น ปิดประตูน้ำอย่างกะทันหัน เป็นต้น เมื่อมีการเปลี่ยนเเปลงความเร็วในลักษณะดังกล่าว โมเมนตัมของของเหลวจะถูกเปลี่ยนไปกลายเป็นแรงกระเเทกบนประตูน้ำและผนังของท่อ แรงกระแทกที่เกิดขึ้นถ้าหากมากเกินกว่าความสามารถของท่อจะรับได้ก็จะทำให้ท่อระเบิดหรือทำให้ระบบท่อเเละอุปกรณ์เสียหายอย่างรุนแรงขึ้นได้ ระดับความเสียหายเนื่องจากวอเตอร์เเฮมเมอร์ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและความยืดหยุ่น (EIasticlty) ของท่อ ความเร็วของการไหล อัตราการเปลี่ยนเเปลงความเร็วการไหล ลักษณะการยึดท่อให้อยู่กับที่ และ ระบบป้องกันวอเตอร์แฮมเมอร์ที่ติดตั้งไว้ เป็นต้น การป้องกันวอเตอร์แฮมเมอร์ วิธีป้องกันไม่ให้วอเตอร์แฮมเมอร์ที่เกิดขี้นมีความรุนเเรงมากจนทำความเสียหายให้แก่ระบบท่อนั้นทำโดยการลดความ