ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Sub_Station

มารู้จักชนิดของสถานีไฟฟ้าแรงสูงกัน

รูปแบบของสถานีไฟฟ้าแรงสูงสามารถแบ่งออกตามชนิดของฉนวนในการดับอาร์คของสวิตซ์ตัดตอน (Power Circuit Breaker )ของสถานีไฟฟ้านั้น ซึ่งมี 2 แบบ คือ

1) สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบใช้ฉนวนอากาศ (Air Insulated Substation : AIS)
• ข้อดีของสถานีไฟฟ้าแบบ AIS คือ
- ระบบสามารถออกแบบให้ยืดหยุ่นกับการใช้งาน, อุปกรณ์ราคาถูก, อุปกรณ์แต่ละตัวแยกอิสระกัน เช่น เซอร์กิตเบรคเกอร์, ใบมีดตัดตอน, หม้อแปลงวัดกระแส, หม้อแปลงวัดแรงดัน, กับดักฟ้าผ่า, บัสบาร์, สามารถจัดหามาทดแทนได้ง่าย
• ข้อเสียของสถานีไฟฟ้าแบบ AIS คือ
- ต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง มากกว่าแบบ GIS มากถึง 5-6 เท่า อุปกรณ์, ต้องมีความระมัดระวังในการปฎิบัติงานเพื่อระบบเป็นแบบเปิด อุปกรณ์แต่ละส่วน เชื่อมต่อกันด้วยสายไฟแรงสูง และต้องเลิอกฉนวนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม

2) สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบใช้ฉนวนก๊าซ (Gas Insulated Substation : GIS)
• ข้อดีของสถานีไฟฟ้าแบบ GIS คือ
- ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างน้อย, ติดตั้งได้รวดเร็วกว่า, มีความปลอดภัยในการใช้งานสูงกว่า, ไม่มีผลกระทบจากมลภาวะภายนอก, การบำรุงรักษาน้อยกว่า
• ข้อเสียของสถานีไฟฟ้าแบบ GIS คือ
- อุปกรณ์มีราคาแพงกว่ามาก, การขายหรือเพิ่มเติมต้องวางแผนล่วงหน้า และต้องใช้ผลิตภัณฑ์เดิม ซึ่งผู้ผลิตมักจะเสนอราคาสุงกว่าความเป็นจริงเมื่อมาติดตั้งภายหลัง, เมื่อมีความเสียหายระหว่างการใช้งาน เช่น หากเกิด fault ภายในจะหาตำแหน่งได้ยากกว่าและการซ่อมแซมมีความยุ่งยาก ทำให้เสียเวลาในการหยุดจ่ายไฟสูงขึ้น, ใช้ก๊าช SF6 เป็นฉนวนในการดับอาร์ท ซึ่งมีราคาแพงและมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

ส่วนอุปกรณ์หลักภายในสถานีไฟฟ้าแรงสูง ของแบบ AIS ก็มีประมาณนี้ครับ
1) Power Transformer
2) Power Circuit Breaker
3) Disconnecting Switch
4) Current Transformer
5) Voltage Transformer
6) Lightning Arrester

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทำไมเราถึงต้องทำ Vacuum ใน Condenser

มีน้องมาถามหลังไมค์ครับ.."ถ้า Condenser เกิด back pressure ขึ้นมาจะมีผลกระทบอะไรโดยตรงกับ Steam turbine???" ก่อนตอบคำถามอยากเล่าให้ฟังก่อนว่า..ทำไมเราถึงต้องทำ Vacuum ใน Condenser เพราะมันเกี่ยวเนื่องกัน วัตถุใดๆก็ตามที่เป็นของแข็งถ้าเคลื่อนที่ตัดกับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแนวใดๆ แนวตรง ขวาง ดิ่ง หรือ การหมุน ภายใต้แรงดันบรรยากาศของโลก จะเกิดความร้อนขึ้นกับวัตถุนั้น เนื่องจากแรงเสียดทาน (air friction) ถ้าเราหมุน Steam Turbine โดยไม่มี Vacuum ก็จะทำให้ Turbine blade เกิด overheat ดั งนั้นเราจึงต้องทำให้เกิด Vacuum เพื่อลดแรงเสียดทานจากแรงดันบรรยากาศโลก แล้วทำไม Gas turbine หมุนได้โดยไม่ต้องมี Vacuum??? เพราะ GT มี cooling air ไงครับต่างจาก ST ที่ไม่มีระบบ cooling ใดๆ และที่สำคัญที่สุดคือ Vacuum จะเป็นตัวทำให้ steam flow ไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดแรงต้านใดๆต่อการไหลของ steam กลับมาที่คำถาม..ถ้าหลังจาก ST on load ไปแล้ว หมายถึงมี steam flow เกิดขึ้นแล้ว ถ้าเกิด back pressure ขึ้นมาจะมีผลกระทบอะไรโดยตรงกับ Turbine อย่างแรก back pressure จะทำให้การไหลของ steam เปลี่ยน

Switchgear

เรียนรู้เรื่องระบบไฟฟ้ากำลัง (3) Switchgear อุปกรณ์ตัดตอนไฟฟ้า (Switch gear)      ระบบการจ่ายไฟฟ้าดั้งเดิมเริ่มขึ้นจากการกระจุกตัวภายในเมือง การจ่ายไฟฟ้าเริ่มจากแรงดันไฟฟ้าต่ำ 110-220 Volt เมื่อมีการขยายตัวสูงขึ้นของการใช้ไฟฟ้า ระยะทางการจ่ายไฟฟ้าเริ่มไกลออกไป แรงดันไฟฟ้าที่จ่ายจึงต้องเพิ่มขึ้นเพื่อลดกระแสในสายไฟฟ้า เป็นการลดการสูญเสียพลังงานในสายไฟฟ้าและลดปัญหาเรื่องแรงดันไฟฟ้าตก แรงดันไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเข้าสู่ระบบแรงดันปานกลาง (Medium Voltage) 3000 ถึง 33000 Volts ไปจนถึงระดับแรงสูง (High Voltage) 69000 ถึง 230000 Volts และปัจจุบันเข้าสู่ระดับสูงพิเศษ (Extra High or Ultra High Voltage) ที่ระดับแรงดัน 500000 Volts      การจ่ายไฟฟ้าไปในระยะทางทั้งใกล้และไกล จึงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันหรือใช้ตัด-ต่อไฟฟ้า ดังนี้ อุปกรณ์ตัด-ต่อไฟฟ้าแรงต่ำ (Low Voltage Switchgear) ฟิวส์ (Fuse)      ฟิวส์ทำหน้าที่หลัก 2 ประการ คือ ป้องกันการใช้กระแสไฟฟ้าเกิน (Over Load) และป้องกันการลัดวงจรไฟฟ้า (Short circuit)      ฟิวส์ทำงานโดยอาศัยหลักการของการหลอมละลายของโลหะ ซึ่งตัวฟิวส์ เป็นแผ่นโลหะบาง